ความรู้เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009
             
                     
 

ไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาด 2009

1. ไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดตามข่าวอยู่ในขณะนี้คือโรคอะไร
โรคที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในคน แพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คน ไม่พบว่ามีการติดต่อมาจากสุกร เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 (A/H1N1) ซึ่งเป็นเชื้อตัวใหม่ที่ไม่เคยพบทั้งในสุกรและในคน เป็นเชื้อที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ซึ่งมีสารพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัดใหญ่คน ไข้หวัดใหญ่สุกร และไข้หวัดใหญ่สัตว์ปีกด้วย เริ่มพบการระบาดที่ประเทศเม็กซิโก และแพร่ไปกับผู้เดินทางไปในอีกหลายประเทศ ระยะแรก กระทรวงสาธารณสุขใช้ชื่อโรคนี้ว่า “โรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโก” และเมื่อองค์การอนามัยโลกได้ประกาศชื่อเป็นทางการเมื ่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1” และใช้ชื่อย่อว่า “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009”

2. เหตุใดจึงไม่ใช้คำว่าไข้หวัดสุกร (Swine flu) เหมือนชื่อที่ใช้เรียกในระยะแรกของการระบาด
เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ใหม่ ในการรายงานโรคนี้ช่วงแรกในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Swine Flu” หรือไข้หวัดใหญ่สุกร โดยปกติแล้ว ไข้หวัดใหญ่สุกรเป็นโรคทางเดินหายใจที่เกิดขึ้นในสุก ร มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หลายชนิด เช่น H1N1, H1N2, H3N1 และ H3N2 แต่ละชนิดมีหลากหลายสายพันธุ์ ตามปกติการเกิดโรคในสุกร บางครั้งอาจมีผู้ติดเชื้อจากสุกรและป่วยซึ่งเกิดไม่บ ่อยนัก การติดเชื้อเกิดโดยคนหายใจเอาละอองฝอยเมื่อสุกรไอ หรือจาม เข้าไป หรือการสัมผัสกับสุกร หรือสิ่งแวดล้อมที่สุกรอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตามเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโกนี้ ผลการตรวจวิเคราะห์ในระดับพันธุกรรมพบว่า เป็นเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่พบในคน และยังไม่เคยพบในสุกรมาก่อน และการระบาดดังกล่าว ไม่มีรายงานโรคนี้ระบาดในสุกรทั้งในเม็กซิโกและสหรัฐ อเมริกา และผลการสอบสวนโรค ไม่พบผู้ใดติดโรคจากสุกร หากแต่เป็นการแพร่กระจายโรคจากคนสู่คนเท่านั้น

ต่อมาวันที่ 29 เมษายน 2552 องค์การอนามัยโลกได้เปลี่ยนการเรียกชื่อไข้หวัดใหญ่ส ายพันธุ์ใหม่จากที่เคยเรียกว่า ไข้หวัดสุกร หรือ สไวน์ ฟลู (Swine Flu) เป็น “ไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1” (Influenza A H1N1) ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขไทยจึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1” และชื่อย่อว่า “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” เพื่อให้สอดคล้องกันและสื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ตรงกัน ไม่สับสนกับไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1 ที่เกิดตามฤดูกาล ซึ่งเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่คนละตัวกัน

14 วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009

(1). ไม่จับมือ (shake hands)
อ.นพ.มาร์ค เมนเกล มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ สหรัฐฯ แนะนำว่า ให้ล้างมือด้วยสบู่ หรือถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หลังจับมือทักทายกัน

(2). นอนให้พอ...
การ นอนให้พอ และนอนไม่ดึก ช่วยให้ภูมิต้านทานโรคแข็งแรง

(3). ฉีดวัคซีน
วัคซีน ไข้หวัดใหญ่ป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ชอบระบาดในหน้าหนาวได้ แต่ป้องกันหวัดทั่วไป-หวัดหมูไม่ได้

(4). กินอาหารสุขภาพ
ผักผล ไม้ทั้งผล (น้ำผลไม้ปั่นรวมกากใช้ได้ แต่ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้กรองกาก)

(5). ออกกำลัง
การออกกำลังทำให้ภูมิต้านทานโรคแข็งแรง
ถ้าเป็นไข้... อย่าออกกำลังอย่างหนัก เนื่องจากจะเพิ่มเสี่ยงอันตรายจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
หัวใจเต้นไม่ เป็นจังหวะ (ทำให้ตายได้) และอย่านอนทั้งวัน... ให้ลุกขึ้นนั่ง ยืน เดินบ้าง เพื่อให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้น

(6). อยู่ไกลๆ
อยู่ ให้ไกลคนป่วย อย่างน้อย 2 เมตร ไม่เข้าไปในห้องแอร์ ไม่ไปในที่คนแออัด
เช่น ไม่ร่วมประท้วง (ไม่ว่าจะสวมเสื้อสีใด) ฯลฯ

(7). ใช้เจลแอลกอฮอล์
ถู มือด้วยเจลแอลกอฮอล์เมื่อไม่มีโอกาสล้างมือด้วยสบู่

(8). ไม่สูบ
ไม่ สูบบุหรี่และไม่หายใจเอาควันที่คนอื่นสูบเข้าไป บุหรี่ทำลายเซลล์ขน (cilia) ซึ่งช่วยทำความสะอาดทางเดินหายใจ คล้ายๆ กับการกวาดบ้าน... เมื่อเซลล์ขนลดลง หรือทำหน้าที่ได้ไม่ดีจะทำให้ทางเดินหายใจสกปรก และยังทำให้ภูมิต้านทานโรคทางเดินหายใจตกต่ำลงอีกด้วย

(9). ไม่จุ่ม
การ กินอาหารประเภทจิ้มจุ่ม (dippers) ด้วยกันหลายๆ คนอาจทำให้น้ำมูกน้ำลายตกลงไปในน้ำจิ้ม ทำให้ติดเชื้อได้ทางที่ดีคือ ใช้ช้อนกลาง และตักแบ่งน้ำจิ้มกันตั้งแต่แรก

(10). ทำความสะอาด
อย่า ลืมทำความสะอาดกระเป๋า (กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ ฯลฯ) เพื่อลดการปริมาณเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมาได้

(11). ไม่กัดเล็บ
การ กัดเล็บเพิ่มโอกาสติดเชื้อจากนิ้วมือ-เล็บ

(12). ยิ้ม
ศ.นพ.ชาร์ล คาร์เนตสกี แห่งมหาวิทยาลัยวิลเคส แนะนำว่า ความสุขเล็กๆ น้อยๆ
(ที่ได้ มาโดยชอบธรรม) ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของคนเราดีขึ้น
วิธีเสริมสร้างความสุข ง่ายๆ ได้แก่ ยิ้มบ่อยๆ (อ่านเรื่องนี้ไป-ยิ้มไปก็ได้ครับ...) หัวเราะพอประมาณ มองโลกในแง่บวก (ฝึกได้ด้วยการชมคนรอบข้างอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และเพิ่มเป็น 3 ครั้งหลังอาหาร) เล่นกับสัตว์เลี้ยง เช่น น้องหมา น้องแมว ฯลฯ

(13). ยกศอกเวลาจาม
เวลาไอหรือจาม... ให้ยกแขนขึ้นปิดปาก-จมูก อย่าใช้มือ เพราะจะมีโอกาสติดเชื้อใหม่ๆ เช่น หวัดพันธุ์ใหม่ (มีเป็นร้อยๆ เลย) ฯลฯ จากมือ

(14). ถ้าป่วยไปแล้ว...
ควรพักงาน อยู่บ้าน ดื่มน้ำให้พอ เตรียมกระดาษชำระ (ทิชชู) ไว้ให้พร้อม...
ไอหรือจามใส่ทิชชูแล้วทิ้งในถุงที่ปิดปากถุงได้ เพื่อลดการแพร่เชื้อไปยังคนรอบด้าน

แหล่งที่มา : http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=2867624.msg14052080#msg14052080
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก thaihealth

 
                     
                     
                     
                     
                     
                     
                     
                     
 
                 
:: Copy Right ©2010 โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เบอร์โทรศัพท์ 054-693458 โทรสาร 054-693459 ::